ทานตะวัน

ทานตะวัน
เนื้อร้อง : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ทำนอง : ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี

The Sunflowers
Poetic Lyrics: Naowarat Pongpaiboon
Melody: Thanis Sri-glindee

ตะวันส่องใสแดดฉายลงมาทาบทาทิวทุ่ง
แผ่วลมผ่านโรยเหมือนโปรยกลิ่นปรุงดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาววับวาวทางเกลื่อนเหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อยราวมณีร่วงพรูพัดพรายลงดิน


The sun sheds its bright rays, resplendently painting the vast open fields.
The zephyr blows gently, scenting the air like the sweet and uplifting scent of dry rice flowers.
Twinkling are those star-shaped grass flowers—limpid and dewy—strewing about along the clay paths
Looking like a thousand drops of gems.
With mere touch, those gem-like dews are all drizzling dazzlingly onto the ground.

จะอยู่แดนไหนสุดฟ้าแสนไกลคนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดินที่เราจากมาเนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างามงดงามดังก่อนหรือรอนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้งลมระงมแผ้วพานบ้านนาป่าเขา
 


No matter where we are, far and away or at the end of the horizon,
We always miss our motherland from which we long parted.
Are those gorgeous grass posies still as gracious? Or are they now all withered away?
The heat is burning in the air—
The soil, dry and cracked—
The hot and noisy drought wind rustling inertly over the land grieves the woods and the mountains.

ทุ่มกายทุ่มใจเข้าโหมแรงไฟหัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทำระกำหนักเบาดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญยิ่งวันยิ่งเดือนยิ่งเลือนยิ่งราง
ทอดทิ้งทุ่งร้างวันและวันผ่านเยือนเหมือนเดินทางไกล
 


With fervent enthusiasm we summoned up all the strength and mind power to rekindle the fire within.
Yet, the more we build, the more we toil through thick and thin,
The more we seem to have to stagger along the path of life,
The more our morale and spirits are waning away days and nights.
We were thus coerced to desert the fields and move along.
Time passed; we feel as if we were journeying listlessly to a faraway place.

ตะวันส่องแสงสาดแสงลงมาทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจก้าวไปก้าวไปฝ่าภัยร้อยพัน
มิ่งขวัญเอ๋ย…หัวใจเรามั่นเหมือนทานตะวัน
เฉิดแสงแรงฝันกลางรวีตะวันสีทองส่องใส.


The sun once again sheds its new rays that permeate our dark paths.
We as a reunited phalanx feeling as one brave all the challenges and perils.
Our hearts, my beloved friends, are as bold and intrepid as the sunflowers
Whose sheer dreams radiate resolutely amidst the ever-shining sun’s golden beams.

กวีซีไรต์ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้รจนาคำร้องของเพลง "ทานตะวัน" นี้ไว้อย่างไพเราะ หมดจด และงดงามหามีใครเปรียบ. โดยสังเขป คีตรำพันนี้ว่าด้วยแรงงานชนบท ที่หลั่งไหลอพยพเข้ามาแสวงโชคในเมืองกรุง. แม้ชะตาจะทุรผลข้นแค้น แต่พวกเขาก็ยังยังไม่เสื่อมขวัญและหวัง. กวีได้ใช้ดอกทานตะวันเป็นสื่อในการอุปมาว่า ขวัญและกำลังใจของพวกเขานั้น มั่นคงเหมือนทานตะวัน. คำว่า ‘ทาน’ ในที่นี้ หมายถึง ‘ทานท้า’ และ ‘ทานทน’ กล่าวอีกนัยก็คือ กวีได้พินิจว่า ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ที่ไม่ธรรมดา คือ สามารถทานท้าแรงร้อนแห่งแผดแสงตะวันได้อย่างไม่ระย่อท้อทด.

ฉันทลักษณ์ที่กวีใช้ ซึ่งข้าพเจ้าใคร่ขอเรียกว่า "กลอน ๑๒" นั้น ช่างเนิบเนียน และเหมาเจาะสอดคล้องยิ่งกับถ้อยเธียรระเมียรคำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำไทยแท้ ๆ อันกวีพิถีพิถันสรรคัดใช้.

เปี่ยมความหมาย…แพร้วพรายภาพพจน์…วิจิตรหมดจดเลอค่า…ชื่นชมพรรณนาอย่างไรก็ไม่จบ สำหรับผลงานเพลงกวี ที่เลิศภพอย่างเอกเพลงนี้.

จาก :: http://www.suphawut.com/translations/thai_to_english/song_taantawon.htm

 

เพลงนี้ ได้มีโอกาสร้องตอนค่าย Science Camp ครับ

ตอนร้องธรรมดา (หัดร้อง) ก็คิดว่าไพเราะแล้วนะครับ

เมื่อรวมกับทำนอง ฟังจริงแล้ว เพราะมากๆ ชวนฟัง…

 

คิดกันยังไงบ้าง

 

ย้อนอดีต JSTP

ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับตัวเอง
หลุดพ้นวิกฤตแห่งงานแล้ว
 
หลังจากนี้จะได้ทุ่มเทกับงาน JSTP อย่างเต็มที่แล้ว
 
มาย้อนอดีตกันกับ JSTP ที่ผมรู้จักดีกว่า…
หลายคนงงว่า JSTP คืออะไร มันคือ
"โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน : Junior Science Talent Project"
 
ตอน ม.4 ครูที่หมวดวิทย์ประชาสัมพันธ์หน้าแถวเกี่ยวกับ JSTP ครับ
ผมก็ อยากสมัคร ก็สมัครดู…ตอน ม.4 เป็นช่วงที่อยู่กิฟเต็ดใหม่ๆ
และความรู้สึกกับวิชาชีววิทยา ยังอยู่ในเชิงบวกอยู่
ตอนนั้น เขียนเรื่องวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิตในขวดกลมแก้ว
แล้วก็ดันติดด้วย…:D
 
ตอนนั้นมีความสับสนว่า เลือกชีวะหรือคณิตดีหนอ…เพราะคณิต ตอนนั้นคิดว่าน่าจะยาก
ก็เลยทำชีวะไป…พอก่อนสัมภาษณ์ เขาให้เขียนโครงงานที่จะทำ ก็เขียน sphere ไปนี่แหละ
พออธิบายก็อธิบายไม่ได้ – -" ตอบไม่ตรงประเด็น ปีนั้นเลยไม่ติดไป
 
อีกอย่างนึง เกรดออก..เทอมนั้น ชีวะ เป็นอะไรที่ตกต่ำมาก เพราะได้ 2 !?! 
เป็นเกรดที่น้อยที่สุดเท่าที่เคยเรียนมาแล้ว
 
ด้วยความอาย (ตัวเอง) อีกปี เลยไม่สมัครมันละ JSTP ช่างมัน ผ่างงงงงง
 
ต่อมา JSTP ถูกจุดประเด็นอีกครั้งตอน ม.5 ขึ้น ม.6 ตอนเข้า Science Camp
เห็นพี่ๆ ค่ายเก่า พี่ Staff บางคนอยู่ JSTP ด้วย…แหม่ ดูเท่ห์จัง
 
ม.6 ก็เลยสมัครมันอีกรอบนึง…งวดนี้เตรียมการดีขึ้น เปลี่ยนมาคณิต (กับคณิต ตอนนี้เต็ม 100 แล้ว)
เขียนเรื่องวิทย์ไป เรื่อง เอาความรู้เกี่ยวกับคณิตมาแก้ปัญหาน้ำท่วม (โครงงานมั่วๆ)
ผลออกมา ก็ติด อีกแล้ว อิอิ
พอติดแล้ว เกิดคำถามว่า…ทำอะไรดีหนอ???
ก็เลยไปปรึกษาอาจารย์ แล้วได้หัวข้อมา (ที่เคยเล่าให้ฟังแล้วแหละ)
 
ตอนลุ้นผลสัมภาษณ์ อยู่ที่ Science Camp พี่เอก พี่ประธานค่ายรุ่น 23 ก็บอกว่า ผลออกแล้วว…
วันนั้นตื่นเต้น รอเวลาเปิดดูผลที่หอตอนกลางคืน
ปรากฏว่า ติด เย้ๆๆๆๆ ที่เฝ้ารอใฝ่ฝัน มาตั้งแต่ ม.4 ก็เป็นจริงแล้ว…..
 
ซึ่งผมก็จะพยายามทำงานนี้ให้ดีที่สุด(ตามสไตล์ MoDErN_SnC) และจะพยายามให้เข้าระยะยาวให้ได้
 
ผมจะพยายามครับ
 

work crisis

ผ่านมาแล้ว เกือบ 100% สำหรับ วิกฤติแห่งงาน
(เวลาผ่านไปเร็วจัง ?!?)
 
หลังจากสัมภาษณ์ JSTP แล้ว….สรุป ก็ได้ตามที่หวังไว้ อิอิ
ขั้นต่อไปก็เตรียมตัวเหนื่อยต่อ หุหุ ไม่เป็นไร เพื่ออนาคต (เผื่อได้ระยะยาว ใครจะไปรู้ล่ะ)
 
ต่อมา งานจบหลักสูตร ก็จบสักที
จบ ม.6 แล้วโว้ยยย…..
 
ค่าย Science Camp ก็ผ่านไป
ทุลักทุเลบ้าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ปีหน้าเราจะมาร่วมค่าย 27 กันต่อปาย….
 
งานต่อไปคือ ค่าย MathCamp ที่โรงเรียน
สู้ต่อไป ทาเคชี อิอิ

MoDErN_SnC Live in BKK1

มาถึงสักทีครับ กทม กับภารกิจ..สัมภาษณ์ JSTP
 
นึกถึง 2 ปีที่แล้ว มีความสนใจคณิต แต่สะเออะทำ ชีวะ (ตอนนั้นมีอคติกับชีวะ)
จำได้ว่า ครั้งนั้น ตอนเขียนเรื่องส่งไป เขียนเกี่ยวกับ Sphere ที่สำรวจสิ่งมีชีวิตในขวดกลม
รู้อะไรก็เขียนไป พอก่อนสัมภาษณ์ ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนหัวข้อได้
เลยใส่ sphere ไป ด้วยความที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็ตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ผล…ไม่ติดอะดิ..ดันหลวมตัวเข้าสาขาชีวภาพด้วย คนแย่งกันโคตร…
 
ด้วยเหตุดังกล่าว เลยเลิกสมัครไป 1 ปี จนได้ Science Camp เป็นแรงบันดาลใจว่ามาสมัครอีกปีดีกว่า
ปีนี้เลยเลือกหัวข้อเกี่ยวกับคณิต โดยเฉพาะ Algebra
เลยไปปรึกษา รศ.จินตนา (อดีตอาจารย์โครงการ Gifted Math ตอนปี 2547 และอาจารย์ที่คุมค่ายโอ)
ก็เลยได้หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับ Abstract Algebra มา….
 
ปีนี้ ไม่กล้าคาดหวัง กลัวไม่ได้แฮะ…ก็เลยเตรียมตัวทำการบ้าน ค้นคว้าข้อมูลไปได้ระดับหนึ่งแล้ว…จะได้ไหมหนอ?
 
ลากยาวไปละ…มาเข้าเรื่องตามหัวข้อกัน
 
วันนี้ ตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง  เพื่อไปส่งป้าที่ รพ.รามาธิบดี
ปรากฏว่า ไปถึงประมาณตี 5 ครึ่ง….เพื่อไปรอคิวตรวจตา
คุณป้าก็อยู่คิวที่ 5 ไอ้เราก็ง่วงๆ ก็เลยนั่งสัปหงกไประยะหนึ่ง
ตื่นมาอีกที..แถวยาววววว…ประมาณ 30-40 คน?!?
 
พอเสร็จแล้ว เราก็นั่งรอ รอไปรอมา หลับไปเลย หนึ่งชั่วโมง
ตื่นมาอีกที ป้ามาปลุก 555+ ท่ามกลางรอยยิ้มของคนนั่งข้างๆ (จะอายดีไหมหนอ)
ไปหาข้าวกิน แล้วก็มานั่งต่อ
นั่งรอ ก็หลับต่อ…ตื่นมาอีกทีครับ..เพื่อนค่าย Science Camp ก็โทรมาซักถาม
ดีละครับ ได้ตื่นสักที
หลังจากนั้นท่านประธานรุ่นโทรมาทวงงาน – – เรื่องหนังสือรุ่น
ก็เลยติดต่อประสานงานกับบรีส (ไอ้เราก็ผิดเองที่ไม่ได้บอกบรีสให้ทำแบบละเอียด)
จากนั้นก็ตื่นเลย ไม่หลับอีก…ก็เอาหนังสือที่หอบไป นั่งอ่านไป…ก็ get ละ อิอิ
ความมั่นใจในหัวข้อเริ่มมีขึ้นตามลำดับ
 
หลังจากธุระที่โรงพยาบาลรามาธิบดีเสร็จ ก็ไปเดินโต๋เต๋แถวศูนย์หนังสือจุฬา
ไปได้หนังสือมา 3-4 เล่ม (งวดนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเลยอะ  – -")
แล้วก็กลับมานอนเกลือกกลิ้งอยู่บ้าน ประมาณบ่าย 2 เ ป็นต้นมา
 
อยากบอกว่า…อยู่ กทม ร้อนนนน…. อยู่เชียงใหม่ดีกว่า…
 
อย่าไปเลย…บางกอก…จาบอกห้าย…..!!

ประกาศภาวะฉุกเฉิน!!!

ตอนนี้ เข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว….
 
ผ่านไปแล้ว 2 งานเล็ก ๆ คือสอบ AP Program กับ ค่าย Gifted
AP ก็ผ่านไปได้ด้วยดี การอ่านหนังสือ 3 วัน (แบบเกือบหักโหม) ก็ทำให้พอทำข้อสอบได้บ้างไม่มากก็น้อย
แต่…ได้ข่าวว่าตัดเกณฑ์ผ่านที่ 80 – -" เหอๆ ได้เกิน 50 ก็บุญโขแว้ว..
 
ค่าย Gifted ก็หนุกหนาน เฮฮา เจอเพื่อนๆ ก่อนที่จะแยกจากกันไปทำตามความฝันของตนเอง
เหลือเก็บไว้เพียงความทรงจำที่ดี (หรอ) เก็บไว้ในใจ
 
งานต่อไปคือ JSTP
ข้าพเจ้าทำโครงงานเรื่อง "ศึกษาสมบัติทางพีชคณิตของ O(Zn) เมื่อ Zn คือจำนวนเต็ม n มอดุโล n"
O(Zn) หมายถึง Ordered Set อ่า (เดวต้องไปศึกษาให้เข้าใจ)
ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก รศ.จินตนา  แสนวงศ์ แห่งภาคคณิต มช เป็นที่ปรึกษาให้
 
ฟังชื่อแล้ว..ดูดี…แต่ที่จริงแล้ว คนที่ทำยังไม่ค่อยเข้าใจเลย….
 
ใครที่พอมีความรู้เกี่ยวกับพวก Preserved Order ก็ช่วยมาชี้แนะแนวทางหน่อยนะครับ
 
 
 
ข้อคิดวันนี้….
หากเรายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตล่ะก็…เราก็จะ..กินอิ่ม…นอนอุ่น…หุ่นดี…มีทุน…สูญหนี้ คร้าบ….